วันเสาร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2556

เสื่อกกบ้านแพง

Attention, เปิดในหน้าต่างใหม่. พิมพ์อีเมล
ณ.บ้านแพง

          บ้านแพงตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ.2369 สาเหตุที่ชื่อบ้านแพง เพราะมีต้นแพง (ชื่อต้นไม้) ขึ้นหนาแน่นเป็นป่าบริเวณที่ตั้งหมู่บ้าน จึงเรียกว่า "บ้านแพง" อาชีพหลักของประชาชนคือทำนา รองลงมาคือการทอเสื่อกก และที่เหลือเป็นการประกอบอาชีพ รับจ้างทั่วไป โดยมากหลังฤดูเก็บเกี่ยว ชาวบ้าน จะออกไปหางานทำที่อื่น
          ชุมชนแพงเป็นชุมชนที่เน้นการทอเสื่อกกมาตั้งแต่อดีต ผลิตภัณฑ์ ของบ้านแพงนั้น ได้รับการปรับปรุงให้มีความทันสมัยทั้งในเรื่องรูปแบบ และลวดลาย ทำให้บ้านแพง กลายเป็นหมู่บ้าน OTOP ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักกันดีในด้านผลิตภัณฑ์เสื่อกกทั้งจากในและต่างประเทศ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ชุมชนกลายเป็นแหล่งศึกษาดูงานในด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชน
ลักษณะต้นกก ก่อนแปรรูป          การทอเสื่อกกมีมาประมาณ 100 ปีแล้ว ส่วนใหญ่ทอเสื่อเพื่อใช้สอยในครัวเรือนสำหรับแลกเปลี่ยนกับสิ่งของเครื่องใช้ ภายในหมู่บ้านและใกล้เคียง โดยเริ่มต้นทอเสื่อจากต้นกกสามเหลี่ยม (ต้นผือ) ต่อมาพระที่วัดได้นำพันธ์ตินกก (ไหล) มาจากจังหวัดร้อยเอ็ด มาทดลองปลูกที่ริมบึงบ้านแพง
          ผลปรากฏว่า ปลูกได้ผลดี เจริญเติบโตเร็ว จึงมีราษฎรนำมาปลูกเพิ่มกันเกือบทุกครัวเรือน มีคุณสมบัติเหนียว เมื่อทอเป็นผืน จะใช้งานได้ดี มีความคงทนถาวรมากกว่าการทอจากต้นผือ ต่อมามีการจัดตั้งเป็นกลุ่มอาชีพในรูปคณะกรรมการกลุ่มอาชีพ ทอเสื่อกกบ้านแพงจนถึงปัจจุบัน
ขั้นตอนการผลิตเสื่อกก
• การปลูกต้นกก การเตรียมต้นกก (หน่อ) และแปลงปลูกโดยพรวนดิน 2 ครั้ง เพื่อให้ดินร่วนซุย มีน้ำขังเล็กน้อยพอให้แฉะ เพื่อปลูกดำหน่อกกง่าย โดยระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 1-2 ฟุต ได้ 7 วัน ปล่อยน้ำเข้าสูงประมาณ 30 เซนติเมตร ใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 15 -15- 15 ประมาณ 25 กก.ต่อ 1 ไร่ 1-2 เดือน/ครั้ง
 • การเก็บเกี่ยวต้นกก เมื่ออายุกกได้ประมาณ 2-4 เดือน กกเริ่มมีความเหนียวพอประมาณ โดยสังเกตต้นกกออกดอก ซึ่งเป็นระยะที่มีความเหนียวจึงเริ่มตัดกกได้ โดยใช้มีดหรือเคียวตัดบริเวณโคนต้น เพื่อให้กกแตกหน่อขึ้นมาใหม่
การเก็บเกี่ยว และการตาก ต้นกก
• กรรมวิธีการซอยและการตาก และย้อม การซอยกกทำได้ 2 แบบ คือ การซอยสดๆหรือผึ่งแดดให้พอหมาดๆ (1 แดด)จึงนำมาซอย 1 ต้น แล้วแต่ขนาดของต้นกก และลักษณะที่นำมาใช้แล้วนำไปตากแดดให้แข็งประมาณ 2-3 แดดโดยกกจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวหรือสีขาว
          จากนั้นเราจะเข้าสู่ขั้นตอนการย้อม ก่อนย้อมกกต้องนำเส้นกกไปแช่น้ำ ให้เส้นกกอิ่มน้ำประมาณ 1 ชั่วโมง นำกก ผึ่งแดดให้พอหมาดๆ นำเส้นกกลงในหม้อย้อมสีที่เตรียมไว้ จนเส้นกกอิ่มสีหรือประมาณ 20 นาที แล้วจึงนำขึ้นผึ่งแดด ประมาณ 2 แดด นำกกเข้าเก็บเพื่อรอการทอต่อไป
การทอเสื่อกก
การตาก เสื่อกก

          ส่วนวิธีที่เก็บรักษาผลิตภัณฑ์ที่ทำจากกกนั้น ควรเก็บไว้ในห้องที่เก็บควรไม่มีอากาศชื้น เมื่อขึ้นราควรเช็ดและขัด แล้วผึ่งแดดให้แห้ง ผลิตภัณฑ์ที่แปรรูปแล้วควรมีถุงพลาสติกห่อหุ้มเพื่อไม่ให้อากาศเข้า
ผลิตภัณฑ์เสื่อกก
          นอกจากเหนือจากเสื่อกกอย่างดีแล้วที่นี่ยังเป็นเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศฯที่สำคัญคือ บึงแพง มีองค์พระใหญ่ใจกลางบึงแพง มีทัศนียภาพที่สวยงาม เป็นแหล่งอารยะธรรมที่สำคัญของจังหวัดขอนแก่นคือ บริเวณบ้านโนนเมือง (หรือดอนพันชาดเดิม) มีศาลเจ้าพ่อหลักเมือง และเสาหลักเมือง (บือบ้าน) ที่ตั้ง เมืองเก่าของจังหวัดขอนแก่น เป็นแหล่งวัฒนธรรมพื้นบ้านอีสาน
          อีกหนึ่งสิ่งที่จะลืมไม่ได้ คือ “โฮมสเตย์เสื่อกกบ้านแพง” ที่พักคืนละ 200 บาท อาหารมื้อละ 50 บาท กาแฟมื้อละ 10 บาท แขกที่มาพักจะมีกิจกรรมร่วมกับเจ้าบ้าน คือ จะได้ร่วมทอเสื่อกก ศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับการผลิตเสื่อกก และวัฒนธรรมความเป็นอยู่ของชาวบ้านแพง




           ตัวอย่างบุคคลเกียรติยศ ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้สร้างชุมชนให้เข้มแข็งและอยู่ดีมีสุขตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงในงาน OTOP Mid Year 2007 กับการฟื้นฟูวิชาทอเสื่อกกจันทบูรณ์ให้ดูทันสมัย และตรงตามความต้องการของตลาดมากขึ้น ทำให้ก่อเกิดเป็น “กลุ่มทอเสื่อกกสุริยา บางสระเก้า” จ.จันทบุรี การันตีด้วยรางวัลผลิตภัณฑ์ชุมชนและท้องถิ่น (OTOP) ระดับ 5 ดาว สร้างความภาคภูมิใจให้กับผู้นำชุมชนและชาวบ้าน ที่พยายามรักษาองค์ความรู้การทอเสื่อกกภูมิปัญญาของบรรพบุรุษ
       

       สุริยา แก่นจันทร์ ประธานกลุ่มทอเสื่อกกสุริยา บางสระเก้า จ.จันทบุรี เล่าว่า แต่เดิมอาชีพของชุมชนบางสระเก้า ได้ทอเมื่อกกมาตั้งแต่บรรพบุรุษ โดยรูปแบบที่ทอออกมาส่วนใหญ่จะเป็นเสื่อผืนใหญ่และเสื่อพับ ซึ่งประโยชน์ในการใช้สอยมีข้อจำกัดได้เพียงไม่กี่ประเภท ดังนั้นเมื่อ สุริยา ต้องรับหน้าที่ในการสืบทอดอาชีพที่ตนเองได้คลุกคลีมาตั้งแต่เกิด จึงได้พยายามคิดค้นรูปแบบใหม่ๆ เน้นการเพิ่มประโยชน์ในการใช้สอย เช่น จานรองแก้ว, รองเท้า, หมวก, หมอนอิง, กระเป๋าใส่เอกสาร, แฟ้มเอกสาร และกล่องใส่สิ่งของ เป็นต้น ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าเป็นอย่างดี
       
     


  






“ในชุมชนการปลูกต้นกกกันมาก มาตั้งแต่สมัยโบราณ ทำให้อาชีพหลักหนีไม่พ้นในเรื่องของการทอเสื่อกก ซึ่งปัจจุบันมีการแข่งขันสูงทั้งจากเสื่อที่ใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ และวัตถุดิบสังเคราะห์ ทำให้เราต้องเปลี่ยนรูปแบบอย่างต่อเนื่อง ไมจำกัดอยู่ที่เสื่อผืน เพื่อประโยชน์ใช้สอยมากขึ้น ส่งผลให้ชาวบ้านมีรายได้อย่างต่อเนื่อง และชุมชนมีความเข้มแข็งมากขึ้น”



 จากแนวคิดของ สุริยาที่นอกจากจะอนุรักษ์ภูมิปัญญาของบรรพบุรุษแล้ว ยังต้องการสร้างอาชีพและเพิ่มรายได้ให้กับชุมชนของตนเองด้วย โดยได้ทำการจัดสรรงานทอเสื่อกกจันทบูรณ์ให้กับชาวบ้านด้วยการกระจายงานในขั้นตอนการผลิตเช่น การย้อมเส้นกก การทอ และการเย็บ ส่งผลให้ชาวบ้าน โดยเฉพาะผู้สูงอายุมีงานทำและมีรายได้เพิ่มมากขึ้น โดยเฉลี่ยประมาณ 3,000 บาท/เดือน จากกำลังการผลิต 2,000 ชิ้น/เดือน ซึ่งแนวคิดดังกล่าวตรงตามวัตถุประสงค์ของการสร้าง “หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง” ได้เป็นอย่างดี โดยล่าสุด สุริยา ได้รับรางวัลบุคคลเกียรติยศจาก พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ในงาน OTOP Mid Year 2007



 “การที่เราได้รับรางวัลดังกล่าว ถือได้ว่าเกิดจากการช่วยเหลือของหน่วยงานภาครัฐฯ ด้วยที่เข้ามาให้คำแนะนำต่างๆ ทั้งเรื่องการออกแบบ การตลาด และการบริหารจัดการ จากกระทรวงอุตสาหกรรม และสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เป็นต้น ทำให้ในปัจจุบันเสื่อกกสุริยา บางสระเก้า ได้กลายเป็นที่รู้จักและนิยมของลูกค้า รวมถึงเรายังได้พัฒนาสถานที่ผลิต เป็นจุดท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม โดยให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาสัมผัสกับสินค้าชุมชนพื้นบ้านจากฝีมือชาวบ้านอย่างแท้จริง เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบศึกษาวิถีชีวิตชาวบ้าน ที่ทางเราได้ถ่ายทอดออกมาได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้ชาวบ้านสามารถจำหน่ายสินค้าของชุมชนได้เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย”
       


นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์ของกลุ่มทำเสื่อกกสุริยา บางสระเก้า ไม่เพียงแต่นำวัสดุจากกมาสานเป็นสินค้าต่างๆ แล้ว ยังได้นำวัสดุธรรมชาติในท้องถิ่น มาแปรรูปด้วย เช่น ปอ มาทอเป็นเสื่อ รวมถึงพัฒนาเป็นสิ่งของเครื่องใช้ สร้างรายได้ให้แก่ชุมชนเพิ่มมากขึ้น โดยสินค้าได้วางจำหน่ายใน จ.จันทบุรี และจังหวัดใกล้เคียง ส่วนตลาดในต่างประเทศ ได้มีการส่งผ่านผู้ค้าไปยังประเทศ เยอรมนี ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา เป็นต้น ซึ่งจุดเด่นของเสื่อกกสุริยา บางสระเก้า ที่สามารถทำให้ผลิตภัณฑ์ชุมชนติดตลาดได้ทั้งในและต่างประเทศคือ มีสีสันที่สวยงาม รวมถึงเส้นกก ที่มีขนาดเล็ก และเหนียว ส่งผลให้สินค้ามีคุณภาพดีแตกต่างๆ จากที่อื่น เนื่องจากต้นกกที่ปลูกในบริเวณชุมชน เป็นกกที่ปลูกในน้ำกร่อยทำให้เส้นกกมีความเหนียว ทนทาน ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบของกลุ่มทำเสื่อกกสุริยา